[Fic Reborn BF] เมื่อกบน้อยเข้าใจผิด [LAT_TI_KARN] - [Fic Reborn BF] เมื่อกบน้อยเข้าใจผิด [LAT_TI_KARN] นิยาย [Fic Reborn BF] เมื่อกบน้อยเข้าใจผิด [LAT_TI_KARN] : Dek-D.com - Writer

    [Fic Reborn BF] เมื่อกบน้อยเข้าใจผิด [LAT_TI_KARN]

    เมื่อกบน้อยเข้าใจผิดจะเป็นยังไงนะ 'เคโร๊ะ'

    ผู้เข้าชมรวม

    1,057

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.05K

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    28
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ต.ค. 56 / 22:17 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ดีจ้าเนมจ้าอุคิคิ

    สบายกันดีรึปล่าวเนมหัวตื้อคิดอะไรไม่ค่อยออกเลยมาเเต่งเรื่องสั้น

    ส่วนฟิคที่ดองไว้ก็....รอไปก่อนละกันนะก๊ะ

    เอาละ.....

    LET GO!!!!
    :) Shalunla
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      'Short Fic เมื่อกบน้อยเข้าใจผิด'



      ห้องอาหารวาเรีย


      "โอ้ยยยย...น่าเบื่อจริงๆเลยนะเนี่ย"สคอลโล่บ่น(หรือตะโกน)ขึ้นมาทำลายควาเงียบสงัดของการกินข้าวกลางวัน

      "แหม...แหม..อะไรกันจ๊ะสคอลี่แค่บอสไม่อยู่ล่ะก็บ่นเลยนะ"เจ๊ลุซที่กำลังชิมอาหารฝีมือตัวเองหันมาพูดกับผู้เป็นรองบอสเเห่งวาเรีย

      "ก็ไอ้บอสบ้านั่นไม่อยู่เเล้วมันเงียบนี่นา"สคอลโล่เห็นว่าบอสไม่อยู่ก็พูดออกมาตมาที่ใจคิดเต็มที่

      "ชิชิชิ...พอเห็นบอสไม่อยู่เนี่ยเอาใหญ่เลยนะสคอลลี่"เบลที่นั่งอยู่ตรงข้ามพูดออกมาเบาๆแต่มันไม่ยากที่สคอลโล่จะได้ยิน

      "โว้ย!!ไอ้นี่หนิหยุดเรียกชั้นด้วยสรรพนามที่มันน่าขนลุมซะทีเหอะ"สคอลลี่(แกอยากตายหรอ//สคอลโล่ กรี๊ดดเนมขอโทษ//เนม)ที่ตอนนี้

      หัวเสียอารมณ์ร้อนจัดพูดขึ้นมา

      "แหมๆเจ๊ว่าสรรพนามนี้มันน่ารักดีออกนะ"ลุซซูเรียพูดขึ้นก่อนที่จะเอาข้าวเข้าปากแต่ก็ีเสียงใครบางคนขัดขึ้นมาเสียก่อนทำให้ข้าวช้อนนั้น

      ไม่ได้ถูกตักเข้าปากซะที-*-

      "ว่าแต่กบขอเจ้าชายอยู่ไหนเนี่ย"เบลหลังจากที่ชะเง้อมองนาฬิกาอยู่นานก็คิดขึ้นมาได้ว่านี่มันเลยเวลาอาหารมาตั้งนานเเล้วทำไมยังไม่

      ยอมลงมาอีก

      "โว้ยอะไรอะไรก็กบๆๆของแกหมดชั้นชักรำคาญเเล้วนะเฮ้ย"สคอลโล่บ่นขึ้นมาอีกครั้ง

      "แหมหยุดขัดเจ๊สักทีสิ"เจ๊ลุซหัันมาบ่นกับเหล่าวอริเอ้อที่ขัดจังหวะเวลาที่เจ๊เค้าจะอาข้าวเข้าปากทุกที

      "อะเจ้าชายหยุดก็ได้รออีกสักพักค่อยไปตามเจ้ากบละกัน"เบลหันมาพูดกับลุซซูเรียก่อนที่จะตักข้าวเข้าปากเเล้วเคี้ยวตุ่ยๆตามภาษาเจ้า

      ชาย(เกี่ยวมั้ยใยไรท์เตอร์ปัญญาอ่อน//เบล ม...ไม่เกี่ยวจ้า//เนม)แต่ดันเหลือบไปเห็นที่ว่างไม่ได้ีแค่2ที่เเต่เป็นสามนั่นก็คืดที่ของเลวี่

      "ย๊ะเเล้วอย่าขัดนะ"เจ๊ลุซทำท่าจะเอาข้าวเข้าปากอีกครั้งแต่ก็ต้องวางช้อนลงแล้วหันไปมอง+ฟังบางอย่าง(อีกแล้ว!)เเล้วสิ่งนั้นก็คือ....

      คือ...!!!
      -------------------------------10%--------------------------


      ตัดฉับ!!เอาไปแค่นี้ก่นละกันอุคิคิ(โดนรองเท้าฟาด)เดี๋ยวมาต่อๆง่วงอ่า*__*
      --------------------------------------------------------------------------------------------

      อ่า ฮร้า(หือ?) มาต่อเเล้วค่ะ

      --------------------------------------------------------------------------------------------

      คือ...!!!

      "ขอโทษครับบอส!!!ผมมาช้า!!!!"เลวี่เปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าที่สยอสุดๆทำเอาเจ๊ลุซพรวดข้าวออกจากปาก

      "กรี๊ดดดดด"เจ๊ลุซกรี๊ดดอย่างหมดความอดทนก่อนจะเดินถือจ่นเข้าออกจากห้องอาหารไป

      "กระเทยแก่นั่นเป็นอะไรวะ"เลวี่หันมาถามเบลที่มองแลวอ้าปากคางอยู่ 'สงสัยจะหูดับ' เลวี่คิดขึ้นมาก่อนที่จะเอื้อมมือ

      ไปแตะไหล่เบล

      "อ่า..ห๊ะ...หะ"เบลสะดุ้งก่อนจะมองไปที่คนที่แตะไหล่ตน

      "เกิดอะไรขึ้นวะไอ้เบล"เลวี่ถามเบลดวยสีหน้าปลาจวดงง(มันมีเร้ออย้าาาา?)

      "เหอะ!ไอ้บอสตไลมันไม่อยู่ส่วยอีลุซมันกำลังจะตักข้าวเข้าปากแต่แกดันมาขัดจังหวะ"สคอลโล่ตอบขึ้นาก่อนที่จะ

      ค่อยๆมองไปที่ปลาจวด

      "ฉันถามเบลไม่ได้ถามแก"เลวี่มองสคอลโล่ด้วยสีหน้าหาเรื่องหลังจากนั้นก็ได้มีแสงจากตาของทั้งคู่ปะทะกันอย่าง

      น่าหวาดกลัว

      "แกหาว่าชั้น เ สื อ ก หรอ"สคอลโล่จ้องหน้าปลาจวดอย่างกับจะฆ่า

      "แล้วแต่แกจะคิด"เลวี่พูดเเล้วมองด้วยสายตาเช่นเดียวกันเบลที่นั่งเหงื่อตกอยู่ก็ไม่รู็จะทำอย่างไร

      "แกหาเรื่องกันเหรอ"สคอลโล่เอาหน้าเข้าไปใก้ลปลาจวดขึ้นอีก

      "รึจะเอา"เลวี่ก็เอาหน้าเข้าไปใกล้กบสคอลโล่เช่นกัน

      "เลวี่โบนาต้า!!!!/สคอลโทรดีลาดีเน่!!!!" (เขียนถูกรึเปล่าน้า) เสียงของทังคู่ประสานกันขึ้นมาพร้อมกับเกิดการประทะ

      กันขึ้นในขณะที่เบลกำลังหลบหลังก้าอี้

      "เจ้าพระคุณรุนช่วยช่วยจ้าชายด้วยยกบบบ!!!" (เอ๊ะมันแปลกๆนะ- -") เบลตะโกนเรียกกบของเขา

      "แอ๊ดดดด"เสียงประตูเปิดหพร้อมกับแสงจากข้างนอกลอดเข้ามา

      ผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่เจ้ากบแต่เป็น.....มาม่อน

      "สวัสดีวันนี้วันเกิดสคอลโล่ใชมั้ยชั้นมาเยี่......เย้ย"ก่อนที่มาม่อนจะพูดอะไรก็ต้องหลบสายฟ้าที่ฟาดมาก่อน

      "มาม่อนช่วยเจ้าชายด้วยยย"เบลที่หลบสายฟ้าอย่างจ้าละหวั่นตะโกนเรียกเพื่อนร่วมงานเก่าก่อนที่จะสะดุดล้ม

      "เฮ้ยยยนี่มันศึกชิงนายเร้อเบลชัันไม่ปลื้มนายเป็นอุเคะนะเฟ้ยย"มาม่อนตะโกนว่าคนที่กลิ้งหลบสายฟ้าอยู่

      "ช่างเถอะช่วยเจ้าชายก่อนนน"เบลตะโกนอย่างโยหวนพรอมกัับกลิ้งหลบสายฟ้าไปด้วย

      "เฮ้อจะมีไหมที่ชั้นมาเยี่ยมพวกนายเเล้วไม่มีเรื่องเนี่ย"

      -10 นาทีผ่านไป-

      "เฮ้อเจ้าชายรอดเเล้ว"เบลโดดไปนอนบนโซฟาห้องรับแขกอย่างโล่งอก

      "ถาชั้นไม่มานายตายไปแล้ว-__-"มาม่อนพูดพร้อมแบมือ

      "เออๆเจ้าชายติดหนี้มาม่อน"เบลโยนมีดของตัวเองไปให้าม่อนกอนที่มาม่อนจะจัดการส่องดูลายแกะสลักเเล้วยิ้ม

      แบบที่เปี่ยมไปด้วยความโลภ

      "ว่าแต่แกมาทำไมเนี่ยมาม่อน"สคอลโล่ที่นั่งหวีผมอยู่ถามขึนมา

      "ลืมวันเกิดตัวเองหรอสคอลโล่"มาม่อนพูดพร้อมชูกล่องบางอย่างขึนมา

      "ว้าวๆๆใจดีจังๆๆๆ"สคอลโล่ที่ทำหน้าดีใจเหมือนเด็กรีบรับกล่องของขวัญมาเปิดออกอย่างทะนุถนอม

      "มาม่อนนี่ดีจังไม่งกเเล้ว"เบลพูดขึ้นมาแต่อยู่ดีๆสคอลโล่ก็นิ่งไป

      "เป็นอะไรไม่ชอบของขวัญเรอะ"มาม่อนหันไปถามสคอลโล่ที่นั่งอยู่

      "น....น...น่าร๊ากกกก"สคอลโล่หยิบโหลแก้วขนาดกลางที่มีลูกฉลามขึนมากอด

      "ว่าเเล้วว่าต้องชอบ"มาม่อนพูดเเล้วมองสคอลโล่อย่างเอ็นดูเหมือนเป็นลูกตัวเอง

      "มาม่อนฉันยังอยากได้อีกอย่างอะ"สคอลโล่ทำหน้าหงอยแล้วหันมาหามาม่อน

      "อะไรหรอ"มาม่อนยิ้มเเล้วถามสคอโล่ไป

      "คือเมื่อวานหนะ...."

      #FRAN TAKE#

      "อืมง่วงจังเลย"ตาของคนที่นอนอยู่บนเตียงได้เปิดขึ้นเภยให้เห็นนัยตาสีเขียวมมรกต

      "นี่กี่โมงเเล้วนะ"ผมมองไปที่นาฬิกาข้างเตียง

      "หาส..สิบเอ็ดโมงง=[]="ผมรีบลุกพรวดเเล้วหยิบชุดเครื่องแบบเข้าห้องนํ้าไปทันที

      -5 นาที-

      "ฟู่วว...เสร็จซะที"ผมถอนหายใจอย่างหน่ายๆก่อนจะเดินลงไปที่ห้องอาหาร

      -ห้องอาหาร-

      "เหไม่มีใครอยู่เล้วหรอ"ผมสอดส่องมองภายในห้องอาหารแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

      "คงอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกันเเล้ว"

      -หน้าห้องนั่งเล่น-

      ผมยืนอยูหน้าประตูกำลังจะผลักมันเขาไปแต่ก็ต้องหยุดฟังเสียงบางอย่างก่อน

      "ฉันรักเธอ!!"เสียงรุ่นพี่เบล

      "แต่น..นายมีคนรักอยู่เเล้วนะฉันทำไม่ได้"นั่นเสียงรุ่นพี่มาม่อนนี่!!!

      "ช่างมันตอนนี้ฉันรักเธอคนเดียวเท่านั้นมีแต่เธอเท่านั้น"หยาดนํ้าตาหลั่งไหลออกมาจากตาของผมทำไมรุ่นพี่เบล

      ช่างมันเหรอรุ่นพี่เบลหลอกใช้ผมหรอเนี่ย

      หลังจากที่ผมคิดได้ก็เดินออกมาจากตรงนั้นเเล้วไปที่สวนหลังปราสาท

      "หึในเมื่อผมโดนหลอกมาตลอดเเล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียแล้ว"ผมเดินออกมาจากปราสาทเเล้วมุ่งหน้าตรงไปที่

      สนามบินทันที

      --สนามบิน--

      'เที่ยวบินBFสายการบินBFFได้เวลาออกเเล้วค่ะ'

      "อ๊ะจะออกแล้ว"ผมรีบวิ่งไปที่ทางขึ้นเครื่องทันทีตอนที่มีเรื่องไม่สบายใจก็ต้องไปหาอาจารย์ละนะ

      ---------------------------20%----------------------------

      ได้เวลานอนเเล้วล่ะค่ะไว้จะรีบมาอัพนะค่ะ

      --------------------------------------------------------------------------------------------

      ฟู่ววววมาเเล้วววววเม้นๆกันบ้างก็ได้นะ กลับมาเเล้วค่าเเบบเน็ตก๊ากกกกกกกกกากๆๆๆสุดๆเลยเนมก็เลยอัพไม่ได้

      ยังไงก็ขอโทษนะค่ะ

      --------------------------------------------------------------------------------------------
      - ณ โกคุโยเเลนด์ -

      KUFUFU KUFUFU KUFUFU NO.... (เสียงเรียกเข้าจ๊ะ)

      ติ๊ด

      "ฮัลโหลครับฟราน"เสียงของสับปะรดในร่างมนุษย์(?)ดังขึ้นมาในห้องอันเงียบสงัด

      'อาจารย์ครับ..ไม่ทราบว่าว่างอยู่รึปล่าวหนะคร้าบ'

      "ว่างครับว่างมากๆด้วย"ผู้เป็นเจ้าของเส้นผมสีไพลินเอ่ยตอบ

      'อืม...ที่โกคุโยมีใครอยู่บ้างครับ'

      "มีผมคนเดียวครับเพราะงั้นถ้าจะชวนไปไหนคงไปไม่ได้หรอกนะครัับ"

      'ใครว่าผมจะชวนอาจารย์กันล่ะครับ'

      "เเล้วคุณโทรมาหาผมมีอะไรกันหรอครับ"

      'อาจารย์ช่วยลงมาหน้าตึกหน่อยจะได้ไหมล่ะคร้าบ'

      "จะให้ผมดูพลุหรอครับผมเกลียดพลุจะตาย"

      'นี่มันกลางวันแสกๆจะมีพลุได้ยังไงกันครับอาจารย์- -" '

      "เเล้วคุณมีอะไรละครับ"

      'ผม...จะ...ให้...ลง...มา...รับ...ผม...ที่...หน้า...'

      "พูดดีๆจะได้ไหมล่ะครับ"

      'ผมจะให้อาจารย์ลงมารับผมที่หน้าตึกหรือเรียกง่ายๆมารับผมขึ้นไปทีสิครับ'

      "หืม" เจ้าของเส้นผมสีไพลินเดินไปเปิดม่านเก่าซอมซ่อของโกคุโยเเลนด์เเล้วก็ได้พบลูกศิษธิ์ของเขายืนจังก้าอยู่

      ข้างล่างพร้อกับกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆและอีกอย่างคุณลูกศิษธิ์อยู่นอกเครื่องเเบบเเละไม่มีหมวกกบเค้าเลยพอจะ

      เดาได้ว่าคุณลูกศิษธิ์มาทำไม

      ตึก ตึก ตึก (เสียงเดินลงบันไดจ้า)

      แอ๊ดด โครมม!!!!!

      ทันใดที่มุคุโร่เปิดประตูออกมาประตูที่เก่าซอมซ่อโทรมสุดยอดก็เกือบจะล้มทับตัวของเขา

      "ซ่อมประตูได้เเล้วมั้งครับท่านอาจารย์" เด็กหนุ่มผมสีเขียวนํ้าทะเลเอ่ยบอกกับผู้เป็นอาจารย์

      "ไงครับคุณลูกศิษธิ์จอมยุ่งวันนี้มาป่วนอะไรล่ะ" มุคุโร่เอ่ยทักลูกศิษธิ์ด้วยท่าทางสนิทสนม

      "แหม me ไม่ได้มาป่วนอะไรสักหน่อย" ฟรานทำหน้าน้อยใจใส่อาจารย์ของเขา

      "เอ้าเข้ามาก่อนสิครับ" มุคุโร่เดินไปลากกระเป๋าของลูกศิษธิ์เข้ามาข้างในโดยเหยียบผ่านประตูที่น่าสงสารไปโดยไม่

      ใยดี

      "อาจารย์คร้าบเเล้วประ..ตู" ฟรานมองภาพของอาจารย์ตัวเองที่ใช้เท้าดันประตูออกไปข้างนอกด้วยความสงสัย

      "คึหึหึ เดี๋ยวผมเรียกคุณเบียคุรันมาซ่อมให้ที่หลังตอนนี้ใช้ภาพมายาไปก่อนเพื่อหลอกยุงล่ะกันนะครับ"

      มุคุโร่บอกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแป้นเช่นเคยเเล้วฟรานก็พยักหน้าตอบรับกลับไปด้วยหน้าตายเช่นเคย

      I'm TOP MAGICTION MISAKIME (เสียงรอสายโทรศัพท์ฟราน)

      "โอ๊ะ...ชิ" ฟรานจิปากก่อนที่จะกระเทาะแบทโทรศัพท์ออกมาเเล้วเก็บใส่กระเป๋า

      "แหมรุนแรงจังนะครับฟรานเเล้วคนที่โทรมานั่นจะไม่ห่วงแย่หรอครับ" มุคุโร่หยอกลูกศิษธิ์ของตนเอง

      "ผมไม่สนหรอกครับ" ฟรานเบะปากเเละควักโทรศัพท์ออกมาจัดการปลดเครื่องเเละบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของใครบาง

      คน

      "เบลเฟลกอล..ทะเลาะกันมาหรอค.."

      KUFUFU KUFUFU KUFUFU NO...

      "ฮัลโหลครับ"


      -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

      เนมขอโทษค่ะเนมรู้สึกผิดมากที่ไม่ใส่ใจฟิคตัวเองเเเล้วปล่อยค้างไว้มานานจนจะหมดปีเเล้วเนมขอโทษจริงๆรู้สึกผิดมากค่ะขอโทษค่ะเนมกลับมาเเล้วเเละจะทำให้ดีที่สุดเลยค่ะ!!

      -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



      "มุคุโร่จังนี่เบียคุรันเองนะจ๊ะ" เสียงทะเล้นแกมหยอกล้อดังเข้าหูของผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์


      "ไม่ทราบว่ามีอะไรครับ" เจ้าของโทรศัพท์ถามไปด้วยเสียงหน่ายๆแต่ใจจริงเเล้วก็ดีใจที่เขา

      โทรมา

      “คือว่าถ้าฉันไม่ไปหาวันนี้จะเป็นอะไรไหม” ปลายเสียงนั้นถามกลับมาด้วยเสียงที่จริงจังขึ้น

      “ถ้าคุณมีทุระก็ไม่เป็นร..” ก่อนที่เจ้าของโรศัพท์จะพูดจบก็ต้องหยุดเงียบเงี่ยหูฟังบางเสียงที่

      ลอดผ่านเขามาจากปลายสาย

      ห...หยุดเลยนะ

      “ไม่ทราบว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ครับคุณเบียคุรัน” เจ้าของโทรศัพท์ถามปลายเสียงอย่าง

      จริงจังและคงหัวเสียไม่น้อยเลยทีเดียว

      “ฮะๆๆๆฉ..ฉันก็กำลังหาของกิน..อ.ใช่หามาชเมโล่อยู่หนะ” พูดด้วยเสียงตะกุกตะกักเห็นได้

      ชัดว่ากำลังโกหกเขาอยู่

      “งั้นเชิญตามสบายเถอะครับเดี๋ยวผมวางล่ะ” เจ้าของโทรศัพตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปน

      หงุดหงิด

      “จ้าเดี๋ยวฉันไปหาน้า” แล้วปลายสายก็วางลงไป

      “เฮ้อ” มุคุโร่ถอนหายใจอย่างระอาเบื่อหน่าย

      “เป็นอะไรครับอาจารย์” ฟรานถามด้วยท่าทางเป็นห่วง

      “ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ” หันกลับมาปั้นหน้ายิ้มแย้มตามเคย

      “ก็แล้วไปครับ” เจ้าของคำถามเดินไปนั่งที่โซฟาและเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแกว่งเล่น

      KUFUFU KUFUFU KUFUFU NO FU เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

      ติ๊ด

      “ฮัลโหลครับไม่ทราบว่า..ใคร” มุคุโร่เอ่ยถามปลายสาย

      เฮ้ยฉันเองฟรานอยู่ที่นั่นใช่มั้ยมุคุโร่หันหน้าไปหาลูกศิษย์คนเดียวทที่จ้องเขาเขม็งเหมือน

      รู้อะไรบางอย่าง

      “ฟรานครับผมขอไปคุยทุระกับคุณฮิบาริก่อนนะครับพูดเหมือนเป็นการตอบกลับปลายสาย

      ว่าฟรานอยู่ที่นี่

      “ครับ” ฟรานตอบกลับแต่ก็ยังแอบชำเลืองมองจนอาจารย์ของตนออกเดินผ่านประตูไปแล้ว

      ค่อยลุกเดินไปหยิบหนังสือมาอ่าน

      “คุณโทรมาทำไมกันครับเบลเฟลกอลมาเช็กฟรานเหรอฟรานอยู่ที่นี่สบายดีครับพึ่งมาถึงแล้ว

      กะเทาะแบตโทรศัพท์ออกเพราะคุณโทรมาคุณเลยติดต่อโทรศัพท์ฟรานไม่ได้” อธิบาย

      อย่างละเอียดเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะถาม

      อะไรบ้าง

      “เฮ้อค่อยยังชั่วนึกว่าฟรานโดนใครลักพาตัวไปซะอีก” ปลายสายตอบกลับมาด้วยเสียงที่

      เรียกได้เลยว่าหมดห่วง

      “แล้วปำอะไรกันมาครับฟรานถึงได้มาถึงที่นี่” ถามด้วยความสงสัยปลายสายเงียบไปสักครู่

      เหมือนกำลังใช้ความคิด

      “อืมมม...ฉันไม่รู้” สิ่งที่ปลายสายตอบมาทำอาคนฟังอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งให้ได้

      “แล้วคุณจะคิดนานทำไมครับ” กำโทรศัพท์แน่นอยากจะบีบคอปลายสายเหลือเกิน

      “อ..โทษทีแต่ว่าฉันไม่รู้จริงๆนี่ก็พอเลยเวลาไปนานมากๆแล้วฟรานก็ยังไม่ลงมาขึ้นไปดูก็ไม่

      อยู่เลยมาถามนายเนี่ยไอ้สับปะรดขึ้นรา” ปลายสายพ่นคำด่าที่คนฟังจะต้องทนไม่ได้อย่าง

      แน่นอนไป

      “แค่นี้แหละครับปัญหาของตัวเองก็จัดการเองเถอะ” มุคุโร่กดวางสายไปก่อนที่โทรศัพท์จะ

      แหลกคามือ

      “เฮ้อเกิดเรื่องวุ่นวายอีกแล้วสินะ” จัดการปิเครื่องเสร็จสรรพแล้วเดินเข้าโกคุโยแลนด์

      “ฟรานครับผมกลับมาแล้ว” เปิดประตูออกมาก็พบลูกศิษย์นอนน้ำลายไหลอยู่

      “เฮ้อไม่รู้จักโตสักที” มุคุโร่เดินไปหยิบผ้าห่มเก่าๆมาห่มตัวฟรานไว้ก่อนที่จะเป็นหวัดเพราะ

      อากาศผ่านเข้ามาเนื่องจากมีประตู

      -ทางด้านวาเรีย-

      “อ๊ากกกกกกเจ้าสับปะรดนั้นมันปิดเครื่องไปแล้ว” เบลตะโกนเหมือนมีมีดสั้นแทงตา #ช่าง

      เปรียบเทียบ

      “ใจเย็นสิฟระ” ปั๊กมาม่อนเอามือเขกหัวเบลไปเต็มๆจะว่ารำคาญหรือเรียกสติกลับมาดีล่ะ

      คงทั้งสองอย่าง

      “โอ๊ยเจ็บนาทำไงดีๆใช่แล้วต้องบึ่งไปโกคุโยจับฟรานกลับมาแล้วก็แวะกินซูชิด้วย”

      เบลบรรยายออกมาด้วยเหมือนไม่จริงจังเลยสักนิด

      “แกบ้ารึเปล่าคิดก่อนสิฟระจะล้อลเนก็ล้อล่นทีหลัง” สคอลเอาน้ำมาสาดใส่เบลจนตัวเปียก

      ไปหมด

      “นี่จะรุมเจ้าชายกันรึไงห่ะมาม่อนสคอลโล่” ตวาดใส่คนทั้งสองท่กำลังกลั่นแกล้งตนอยู่

      “ก็แกมันไม่คิดอะไรให้จริงจังนี่ ฟระ/นา” สคอลโล่กับมาม่อนพูดขึ้นมาพร้อมกัน

      “ใจร้าย” เบลเบ้ปากและเดินขึ้นห้องไป

      “เอาไงต่อละมาม่อนไอ้เบลมันไม่เห็นเป็นไรเลยล่ะ” สคอลถาม

      “ดูไปต่อเหอะถ้าอยากจะแกล้งต้องเอาให้มันส์” มาม่อนแสยะยิ้มออกมาและเดินไปนั่งกิน

      อาหารที่เจ๊ลุซำมาเป็นของว่าง

      “เฮ้อ..เจ้ากบเป็นอะไรของมันเห็นเมื่อเช้าแล้วเข้าใจผิดรึไงแต่มันไม่น่าจะโง่ขนาดนั้น” เบล

      บ่นในระหว่างที่แช่น้ำอยู่ #คิดถูกแล้วล่ะเบล- -“

      “เฮ้อ....” เบลถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่...ของวันแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

      “ไม่อยากเสียค่าเครื่องบินไปญี่ปุ่นด้วยสิ” #มาม่อนสิงรึไงเบล

      ก็อกๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เบลรีบใส่เสื้อผ้าก่อนที่จะเดินออกมาเปิดประตู #ไม่เช็ด

      ตัวเรอะ

      “เฮ้ยเบลฉันจะกลับญี่ปุ่นแล้วนะเวลเด้ต้องการผู้ช่วยด่วนล่ะ” พอเบลเปิดประตูออกมาก็เจอ

      มาม่อนที่อยู่ดีๆก้พูดว่ากำลังจะกลับไป

      “มาม่อนเธอมายังไงล่ะเนี่ย” เบลถามออกไปหวังคำตอบว่าจะวาปมาเค้าจะได้กลับไปด้วย

      “ฉันวาปมาทำไมเรอะ” แล้วเบลก็ได้คำตอบอย่างที่ต้องการกลับมาจริงๆ

      “ฉันขอไปด้วยได้มั้ย” เบลส่งสายตาอ้อนวอนไปแต่ก็ดีเพราะวันนี้มาม่อนกะจะยอมให้

      “งั้นต้องเอาสคอลโล่ไปด้วย” มาม่อนคิดภาพสคอลโล่ที่นอนอยู่บนโซฟาโดยมีบอสที่เพิ่ง

      กลับมาจิ้มๆเขี่ยๆแก้มอยู่

      “เหแล้วบอสจะไม่ฆ่าฉันตายรึไง”เบลพูดเบาๆให้มาม่อนได้ยิน

      “เหแกรู้แล้วเรอะว่าบอสกลับมาแล้ว” มาม่อนถาม

      “ก็แกยิ้มแบบนั้นหวังจะให้ฉันโดนฆ่าเรอะ” เบลบอกมาม่อนไปพร้อมกับเดินลงไปข้างล่าง

      “ไอ้สวะชั้นได้ยินนะเว้ย” บอสเดินผ่านทั้งคู่ไปทางห้องตัวเองทำเอาทั้งคู่เสียวสันหลังวาบ

      “ไอ้สวะมาม่อนชั้นรู้ว่าแกวางแผนอะไรอยู่เพราะฉะนั้นชั้นจะไปด้วย” บอสเดินมาหามาม่อน

      แล้วจ้องเขม็ง

      “แหมยังเหมือนเดิมเลยนะบอส” มองหน้าบอสคนเก่าของตัวเองก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง

      พร้อมกัน3คน

      “ฉันจะอุ้มไอ้ฉลามสวะนี่ไปเองไม่อยากกวนมันเวลานอน” บอสเดินไปที่โซฟาแล้วช้อน

      ตัวสคอลโล่ขึ้นมาอุ้มไว้

      “แกนี่ก็ดีนะวาปไปไหมมาไหนได้” เบลมองมาม่อนพร้อมกับพ่นคำพูดที่ฟังดูเหมือนจะบอก

      ว่ามาม่อนเหมือนผี

      “ที่ชั้นทำได้เพราะเวลเด้ต่างหากล่ะ” มาม่อนพูดพร้อมกับก้มหน้าลง

      “คุณว่าที่สามีหนะเหรอชิชิชิ” เบลมองมาม่อนที่กำลังหน้าแดงอยู่ด้วยความสนุก

      ปั๊กมาม่อนเอาเท้าของตัวเองเหยียบเข้าที่เท้าของเบลอย่างเต็มแรง

      “อั๊ค เจ้าชายเจ็บนะเฟ้ย” เบลบอกแต่ก็ยังอยู่ในลักษณะท่าเดิมไม่เปลี่ยนไปแถมยังเดินต่อ

      ได้สบายบรื๋อ

      “หรอฉันนึกว่านายเป็นมาโซซะอีก” เดินออกไปกัน 4หน่อจนถึงหน้าประตูปราสาท

      (*หมายเหตุจ๊ะ เพื่อใครไม่รู้มาโซแปลว่าพวกชอบความรุนแรงหรือชอบโดนกระทำรุนแรง)

      “ชิชิชิ บ้าไปแล้วเรอะ” เบลเป็นคนยื่นมือไปเปิดประตูก่อนจะพบลำแสงสีฟ้าและทุกอย่างก็

      สว่างไปหมด

      ปั๊กเบลลืมตาขึ้นมาอีกครังก็อยู่ที่ๆทำงานของเวลเด้ซะแล้ว

      “เฮ้ยมาไงฟระเนี่ย” เบลลุกขึ้นมาก่อนจะมองสิ่งรอบข้างด้วยความตกใจ

      “โหยเบลนายนอนน้อยรึไงเนี่ยคนอื่นเขามากันไม่เห็นหลับ” มาม่อนมองเบลทีลุกขึ้นมาทำ

      หน้าตกใจ

      “ถึงแล้วเรอะ”

      “เออใช่แล้วงานเลี้ยงก็กำลังจะเริ่ม” มาม่อนหันไปหาสคอลโล่ที่หลับอยู่บนโซฟาโดยมีบอส

      นั่งข้างๆ

      “เห งานเลี้ยง” เบลเบะปากทำหน้าฉงนสงสัยแล้วคำตอบก็ถูกเฉลย

      “เซอร์ไพร์!!!!!!!” พลุกระดาษเล็กๆถูกยิงออกโดยวองโกเล่รุ่นที่10และผู้พิทักษ์จนสคอลโล่

      ที่หลับอยู่ตื่น

      “เฮ้โย้สคอลโล่สุขสันต์วันเกิด!!” ผู้พิทักษ์พิรุณแห่งวองโกเล่ตะโกนเปิดงานเดินเข้ามา

      พร้อมเค้กหน้าตางดงามชวนน้ำลายสอ

      “สุขสันต์วันเกิดนะสคอลโล่” เบียคุรันเดินออกมาพร้อมกับเค้กอีกอัน

      “เค้กเยอะจริงเลยนะ” เบลมองแล้วนึกถึงวันเกิดของเขาเมือ่ก่อนเขาก็ได้เค้กเยอะแต่เยอะ

      กว่านี้

      “เบลนายไปตามฟรานกับมุคุโร่จังทีสิ” เบียคุรันเดินเข้ามาหาแล้วยิ้มใส่

      “ชิเห็นว่าวันเกิดสคอลลโล่หรอกนะ” เบลเดินออกไปแล้วมุ่งหน้าสู่โกคุโยแลนด์

      “ไหนอธิบายมาสิพวกแกตั้งแต่เรื่องเมื่อเช้าที่ขอให้ฉันขอมาม่อนแสดงละครของเมื่อวาน

      แล้ววางแผนอะไรไว้ห๊ะ” สคอลโล่เอ่ยถาม

      “ฮะๆๆเราอยากให้ทุกคนมาที่นี่หนะจะได้ฉลองวันเกิดให้นายไงสคอลโล่” เบียคุรันพูดแล้ว

      ยิ้มออกมา

      “เฮ่อแล้วจะทำให้ไอ้ฟรานเข้าใจผิดเพื่อ” สคอลเอ๋ยถาม

      “เหตุผลนั่น..” สึนะพูดแล้วเว้นช่วง

      “ก็เพราะอยากทำไงล่ะ” โกคุเดระพูดต่อทำเอาเส้นโทสะทคอลโล่แทบขาด

      “นี่พวกแกแค่อยากทำให้เราวุ่นวายใช่ไหมเนี่ย”สคอลโล่ทำท่าเหมือนจะโกรธแต่อยู่ดีๆก็ยิ้ม

      ออกมา

      “ฮะๆๆๆอยากสร้างสีสันให้ต่างหากล่า” ยามาโมโตะบอก

      -ด้านเบล-

      “ฮึ่มไว้ฉันจะไปฆ่าไอ้เบียคุรันนั่น”

      “ว่าแต่โกคุโยไปทางไหนวะเนี่ย” เบลเดินวนไปรอบๆ

      “ลาลาลาลา” เบลหันไปตามต้นเสียงและเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถ้าเขาจำม่ผิดเขาเคยเจอ

      เธอคนนี้ใช่แล้วรู้สึกจะชื่อฮารุเธอเคยพาเค้าไปหาพอ่ของยามาโมโตะ ทาเคชิเมื่อ10ปีก่อน

      (*หมายเหตุ ใครได้อ่านนิยายความลับของreborn volum1 ไปแล้วจะรู้ ใครยังไม่ได้อ่านหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำถั่วเอ้ยทั่วไปหน้าปกมีมุคุจังอยู่ด้วยหรือถ้าหาซื้อไม่ได้เดี๋ยวมาขอไรต์แล้วไรต์จะพิมลงให้)

      เบลเดินย่องไปข้างหลังเด็กคนนั่นเรื่อยๆพอไปถึงเป้าหมายก็เอามีดจิ้มหลังเล่นเบาๆ

      “ฮาฮิ!!” ฮารุร้องตกใจกับบางอย่างที่อยู่ที่หลัง

      “นี่” พอเธอหันหลังไปก็เจอโจทย์เก่าที่เคยขอให้เธอพาไปหานักฆ่า

      “ฮ..ฮาฮิตอนนี้ฮารุไม่ว่างนะค่ะถ้าจะให้ไปหานักฆ่าให้ต้องขอ..ฮาฮิ!!!” เบลฟลกอลเอามด

      เขี่ยเธออีกรอบจึงต้องยอมจำนน

      “วันนี้เจ้าชายต้องการให้เธอพาไปที่โกคุโยแลนด์หน่อยแล้วจะไปไหนก็ไปได้เลย”

      เบลเฟลกอลเอ่ยจุดประสงค์แล้วเอามีดเขี่ยเธออีกรอบ

      “ฮาฮิแต่ฮารุ...ฮาฮิ!!ค่ะๆจะพาไปเดี๋ยวนี้เลย” ยัยนี่นังน่ารำคาญไม่เปลี่ยนเลย เบลเดินตาม

      ฮารุปเรื่อยๆจนใกล้ถึงจุดหมาย

      ติ๊ดๆๆ

      “ฮาฮิเคียวโกะจัง” ฮารุรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมารับสายและพูดคุยต่อไปเบลเห็นโกคุโยแลนด์

      แล้วเลยเอามีดออกจากหลังฮารุและวิ่งไปต่อ

      “ฮาฮิไปแล้วหรอ” ฮารุมองเบลเฟลกอลที่รีบรุดวิ่งไปที่โกคุโยแลนด์อย่างงง

      ฮารุจังแล้วรีบมานะจ๊ะฉันอยู่กับคุณสึนะแล้วก็เพื่อนๆที่ททำการคุณเวลเด้นะจ๊ะเคียวโกรพูด

      ตัวพ้อแล้ววางสายไป

      “ฮาฮิ” ฮารุรีบวิ่งไปทางที่เดินมาแล้วลับตาไป

      -ด้านเบล-

      “เจ้ากบ!!” เบลรีบวิ่งมาที่โกคุโยแลนด์ทำท่าจะเปิดประตูแต่ว่า

      แอ๊ฟฟ ลงไปกองกับพื้นจนได้

      “อ่าวเบลเฟลกอลเองหรอครับว่านอนอะไรตรงนี้กัน” มุคุโร่เดินมาดูโดยที่ฟรานยังหลับอยู่

      #เสียงดังขนาดนี้ยังหลับได้

      “หนอยแกไอ้สับปะรดทำภาพมายาไว้เพราะรู้ว่าฉันจะมาเลยแกล้งกันใช่มั้ย” เบลลุกขึ้น

      มาแล้วมองมุคุโร่แบบเคืองๆ

      “ใครบอกล่ะครับประตูมันพังตั้งแต่ฟรานมาผมเลยเอาไว้หลอกยุงแต่ไม่คิดว่าจะหลอกคนได้

      ด้วย” มุคุโร่ยิ้มเหยียดๆใส่เชื้อพระวงศ์ที่ลุกขึ้นมาปัดตัวใหญ่

      “ก็คนมันรีบนี่หว่า” เบลรีบปัดเนื้อบปัดตัวแล้วมองหาฟรานทันที

      “เอ่อใช่เบียคุรันให้มาตามแกกับเจ้ากบไปงานเลี้ยงที่ๆทำการของเวลเด้หนะ” มุคุโร่หุบยิ้งลง

      ทันที

      “งานเลี้ยง?” เครื่องหมายคำถามผุดเต็มหัวมุคุโร่

      “อืมไปถึงก็คงจะรู้เองแหละเพราะฉะนั้นแกกับเจ้ากบรีบตามไปเพราะเจ้ากบมันคงไม่อยากมา

      กับฉันเท่าไหร่

      “ครับผมจะรีบไป” มุคุโร่ดันตัวเบลออกไปแล้วรีบปลุกฟรานไปงานเลี้ยง-ด้านงานเลี้ยง-

      “เข้าใจแล้วพวกแกอยากรู้ว่าฟรานมันจะไปหาใครเป็นที่พึ่งตอนที่ทะเลาะกับเบลเลยเตี๊ยม

      ฉันให้ขอให้มาม่อนแสดงละครเรื่องเมื่อวานที่ฉันไม่ได้ดูแล้วพอแกรู้ว่าฟรานมาที่นี่ก็เลย

      อยากจัดงานวันเกิดให้ชั้นเพราะรู้ว่าพวกชั้นจะต้องม็เลยเตรียมงานไว้..สินะ” ฉลามน้อยสคอ

      ลโล่พล่ามยาวมาสัก1นาทีเพื่อจะทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

      “ใช่ครับเราอยากรู้ว่าฟรานคุงเค้าจะพึ่งใครได้บ้างแล้วก็เป็นมุคุโร่คุงอย่างที่ผมคิดไว้เลยเชื่อ

      ว่าเขาคงไม่มาหาพวกผมอยู่แล้วล่ะ” สึนะพูดขึ้นมาเพื่อให้สคอลโล่รับรู้ถึงจุดประสงค์

      “พวกสวะนี่หาเรื่องให้วุ่นวายจริงๆ” บอสแห่งวาเรียที่นั่งอยู่บ่นออกมา

      “ยังไงก็ลุซซูเรียกับเลวี่มันไม่ได้มาด้วยให้ไอ้มาม่อนไปรับละกันถ้าอยากให้มันมาก็”

      สคอลโล่บอกพวกวองโกเล่แล้วหเล่มองมาม่อนทันที

      “ได้ฉันจะไปรับพวกมันมาเอง” มาม่อนวาปไปที่ปราสาทวาเรียทันทีที่พูดจบ

      “เฮ้ยว่าแต่เวลเด้แกทำไอ้เครื่องวาปนั่นได้ยังไงแล้วมันสั่งการยังไงฟระ” พอสคอลโล่พูดจบ

      ทุกคนในงานก็หน้าซีดขึ้นมาทันทีที่ต้องได้ยินคำอธิบายจากบุคคลนั้น

      “หึ..ที่ฉันทำได้ก็เพราะฉันเกง่ไงล่ะส่วนการใช้งานก็ฉันใส่ไอ้เครื่องวาปนั้นไว้ที่ผ้าคลุมขอ

      งมาม่อนถ้าจะใช้งานก็ลองสังเกตดีๆสิตอนมาม่อนจะวาปก็ต้องจับปลายเสื้อคลุมถึงจะวาป

      ได้” ครั้งนี้เวลเด้ไม่ได้อธิบายยาวถึงวิธีการทำเลยทำให้ทุกคนโล่งใจขึ้นเยอะ

      “อ่อ” สคอลโล่หันไปเจอเบลที่ยืนค้างตึ้งอยู่หน้าประตูคงจะช็อคล่ะมั้ง

      “ฮะๆๆแกเข้าใจแล้วสินะเบลเดี๋ยวมันก็จะผ่านไปเองงง” สคอลโล่พูดพร้อมหัวเราะไปด้วยลง

      จากนั้นเบลก็ขยับเยื่อนร่างกันไร้วิญญาณมานั่งตรงโซฟาหยิบน้ำสไปรส์มาดื่มและอยู่ท่านั้น

      นานสองนานจนวิญญาณเข้าร่าง

      “ฮาฮิคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงค่ะเนี่ย” ฮารุที่เดินเข้ามาถึงกับเงิบเมื่อเห็นคนที่พยายามจะฆ่าเขา

      อยู่ที่นี่

      “ฮารุจังมาช่วยทางนี้เร็ว” เคียวโกะเดินมาแล้วลากฮารุไปช่วยงานโดยที่เบลเฟลกอลมอง

      ตามไปเรื่อยๆ

      “มาแล้วครับ” ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของฟรานกับมุคุโร่ที่เดินเข้ามาฟรานตะลึงงันไปชั่ว

      ครู่เมื่อเห็นเบล

      “รุ่นพี่จะอธิบายเรื่องเมื่อเช้าว่ายังไงครับ” ฟรานเอ่ยปากถามรุ่นพี่ของเขาออกไปโดยที่รุ่นพี่

      นั้นชี่ที่สคอลโล่บอกเป็นนัยๆว่าให้ถามเขา

      “โว้ยถ้าอยากรู้ก็กรอกลับไปอ่านด้านบนดิเฮ้ย!!” (เฮ้ยนอกเรื่องๆเอาใหม่)

      “แกก็คุยกันเองสิว่ะมันไม่ใช่ปัญหาของฉัน” สคอลโล่เบือนหน้าหนีแล้วเดินอกไปนั่งกับ

      บอสของตน(ย้ำ”ของตน”=w=)

      “ถ้ารุ่นพี่ไม่มีอะไรmeจะกลับแล้ว” ฟรานทำท่าจะเดินออกไปแต่เบลก็ลุกพึงขึ้นมาและลาก

      ออกไปข้างนอกท่ามกลางสายตาคนอื่น

      “ปล่อยมือผมเลยนะรุ่นพี่รุ่นพี่ก็มีรุ่นพี่มาม่อนอยู่แล้วนี่!!” ฟรานตะคอกใส่แต่ก็ต้องโดน

      บางอย่างอุดปากไว้ซะก่อน

      -------------------------------ทำใจก่อนต่อไปมัันค่อนข้างเรตน่ะค่ะ-------------------------------


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×